ริ้วรอยเกิดจากอะไร? พบ 5 วิธีแก้ริ้วรอยที่ดีที่สุด

ความรู้

บทความ

หมวดหมู่

อัพเดทเมื่อ October 21, 2025

บริการที่คุณอาจสนใจ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายบริการลูกค้า

ริ้วรอยไม่ได้เกิดขึ้นเพราะอายุอย่างเดียว แต่มาจากนาทีเล็กๆ ที่เราทำซ้ำทุกวัน ตั้งแต่แสงแดดตอนเช้าที่ลืมทากันแดด ไปจนถึงการขมวดคิ้วเวลาเพ่งจอมือถือ หากส่องกระจกใกล้ขึ้นเล็กน้อย คุณจะเห็นเส้นบางๆ ที่หน้าผาก รอยยับตอนยิ้มบริเวณหางตา หรือความแบนของผิวที่ทำให้ร่องแก้มชัดขึ้น เหล่านี้คือสัญญาณว่าชั้นผิวเริ่มเสียคอลลาเจน ความยืดหยุ่นลดลง และผิวเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลง

เป้าหมายของเราไม่ใช่แค่ลบรอยแต่คือทำให้ผิวกลับมาทำงานเหมือนผิวที่แข็งแรง ดังนั้น บทความนี้จาก Olivyong Clinic จะพาคุณเข้าใจชนิดของริ้วรอยตามตำแหน่งและสาเหตุจริง แล้วคัด 5 วิธีที่ได้ผลที่สุดทั้งสายหัตถการและการดูแลผิว ที่ผสานกันได้อย่างฉลาด เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืนในแบบของคุณ

ริ้วรอยคืออะไร?

ริ้วรอย(Wrinkles) คือรอยย่นพับ ร่อง หรือเส้นบนผิวที่เกิดจากการหดตัวซ้ำของกล้ามเนื้อ การเสื่อมของคอลลาเจนและอีลาสติน รวมถึงการสูญเสียน้ำและปริมาตรผิวตามวัย ช่วงแรกมักเป็นเส้นตื้นที่เห็นเฉพาะเวลาขยับหน้า ต่อมาจะคงอยู่แม้ใบหน้าอยู่นิ่ง และลึกขึ้นเมื่อโครงสร้างผิวอ่อนแรงลง เข้าใจชนิดของริ้วรอยให้ชัดคือก้าวแรกของการเลือกวิธีรักษาที่ถูกต้อง

สาเหตุของการเกิดริ้วรอย

ริ้วรอยเกิดจากหลายปัจจัยทำงานร่วมกัน ได้แก่ อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้คอลลาเจนและไฮยาลูรอนลดลง การแสดงสีหน้าซ้ำ วงจรนอนหลับไม่พอ ความเครียด ฮอร์โมนเปลี่ยน ผิวขาดความชุ่มชื้น แสงยูวี มลภาวะ บุหรี่และแอลกอฮอล์ รวมถึงโครงสร้างใบหน้าและพันธุกรรมเดิมของแต่ละคน ปัจจัยเหล่านี้เร่งให้ผิวบางลง ยืดหยุ่นน้อยลง และเกิดร่องลึกได้เร็วขึ้น

ริ้วรอยมีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร

โดยทั่วไปแล้ว ริ้วรอยบนใบหน้า สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลักตามตำแหน่งและกลไกการเกิด ซึ่งแต่ละจุดสะท้อนอายุของผิวในลักษณะต่างกัน และต้องการแนวทางดูแลเฉพาะทางเพื่อให้เห็นผลอย่างเป็นธรรมชาติ

1. ริ้วรอยช่วงบนของใบหน้า (หน้าผากและหว่างคิ้ว)

ส่วนบนหรือ หน้าผากและหว่างคิ้ว เป็นริ้วรอยที่มักเกิดขึ้นก่อนจุดอื่น เพราะบริเวณนี้มีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบ่อย เช่น การเลิกคิ้วหรือขมวดคิ้ว จึงเกิดเป็นเส้นแนวนอนบนหน้าผาก และเส้นตั้งระหว่างคิ้ว เมื่อคอลลาเจนเริ่มลดลง รอยที่เคยหายเมื่อหน้าเฉยจะคงอยู่ถาวร แนวทางแก้ไขคือคลายกล้ามเนื้อที่หดตัวซ้ำ (เช่นการฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณที่เหมาะสม) เสริมด้วยการทาครีมบำรุงที่มีเรตินอยด์ และกันแดดเป็นประจำเพื่อลดการทำลายของยูวี

2. ริ้วรอยช่วงกลางใบหน้า (หางตาใต้ตาและร่องแก้ม)

ริ้วรอยบริเวณนี้เกิดจากการแสดงสีหน้าซ้ำ เช่น การยิ้ม หรือพูด รวมกับผิวรอบตาที่บางและขยับบ่อย ทำให้เกิด “ตีนกา” หรือรอยใต้ตาชัดขึ้น เมื่ออายุมากขึ้นชั้นไขมันและคอลลาเจนลดลง แก้มจะยุบตัวและเกิดร่องจากปีกจมูกถึงมุมปาก แนวทางแก้คือเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวรอบดวงตา ฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดแรงกล้ามเนื้อในบางจุด และใช้ฟิลเลอร์เติมร่องลึกให้ผิวกลับมาตึงกระชับ

3. ริ้วรอยช่วงล่างของใบหน้า (เหนือริมฝีปากมุมปากและลำคอ)

โดยทั่วไปแล้ว ริ้วรอยบริเวณล่างของใบหน้าเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การจุ๊บปาก ดูดน้ำจากหลอด รวมถึงการก้มมองจอมือถือบ่อย ผิวบริเวณนี้บางและรับแรงพับมากจึงเกิดเป็นเส้นตั้งเหนือริมฝีปากและเส้นขวางบนลำคอได้ง่าย แนวทางดูแลคือหลีกเลี่ยงพฤติกรรมซ้ำ เติมสารกระตุ้นคอลลาเจนอย่างไฮยาลูรอนหรือวิตามินซีอย่างสม่ำเสมอ ใช้กันแดดลงถึงลำคอ และหากผิวเริ่มคล้อยสามารถทำการยกกระชับด้วยคลื่นพลังงานอย่าง HIFU หรือ RF เพื่อฟื้นความแน่นของโครงสร้างผิว

5 วิธีแก้ริ้วรอยที่ดีที่สุด

1. โบท็อกซ์สำหรับริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า

เหมาะกับหน้าผาก ระหว่างคิ้ว หางตา กลไกคือผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ดึงผิวให้พับซ้ำ ทำให้ผิวเรียบขึ้นและป้องกันการก่อตัวของร่องลึก ระยะเริ่มเห็นผลภายใน 3–14 วัน ผลอยู่ได้ราว 4–6 เดือน จุดสำคัญคือการประเมินแรงกล้ามเนื้อและฉีดอย่างแม่นยำให้พอดีเพื่อคงความเป็นธรรมชาติ

2. ฟิลเลอร์สำหรับร่องลึกและการสูญเสียปริมาตร

เหมาะกับร่องแก้ม ร่องมุมปาก ร่องใต้ตา และริมฝีปากที่แฟบลง เติมปริมาตรในชั้นที่เหมาะสมเพื่อยกเงาร่องให้ตื้นขึ้นทันที พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว ผลอยู่ได้ประมาณ 9–18 เดือนขึ้นกับชนิดฟิลเลอร์ เทคนิคที่ดีจะยกทั้งโครง ไม่ใช่เติมจุดเดียวให้โป่ง

3. อัลตราซาวด์โฟกัสและคลื่นวิทยุสำหรับผิวหย่อน

เหมาะกับกรอบหน้าหาย แก้มคล้อย คอเป็นวง ตัวยิงพลังงานลงชั้นพยุงผิว กระตุ้นคอลลาเจนใหม่ให้ผิวแน่นขึ้นและยกชั้นลึก ส่วน RF ช่วยกระชับชั้นผิวและเนื้อเยื่อเหนียวแน่นขึ้น ผลค่อยเป็นค่อยไป ชัดขึ้นใน 6–12 สัปดาห์ เหมาะกับผู้ที่อยากเลี่ยงเข็มและพักฟื้นน้อย

4. สกินแคร์แก้ริ้วรอยที่มีรีวิวแน่น

เรตินอยด์ วิตามินซี เปปไทด์ และกรดไฮยาลูรอนคือแกนหลัก เรตินอยด์ช่วยเร่งผลัดผิวและกระตุ้นคอลลาเจน วิตามินซีปกป้องและเสริมการสร้างคอลลาเจน เปปไทด์ช่วยซ่อมแซมเมทริกซ์ผิว กรดไฮยาลูรอนเพิ่มความอิ่มฟู ทากันแดดสม่ำเสมอคือหัวใจของการชะลอริ้วรอยทุกชนิด เพราะยูวีคือปัจจัยเร่งความเสื่อมอันดับต้น

5. การจัดพฤติกรรมและท่าทางที่ทำทุกวัน

นอนพอ ลดความเครียด งดบุหรี่ จำกัดแอลกอฮอล์ ดื่มน้ำพอ และยืดเหยียดคอไหล่เพื่อลดท่าก้มจอนาน ช่วยลดแรงกดซ้ำที่ทำให้เกิดรอยและยืดอายุผลการรักษาอื่นๆ ได้ดี นอกจากนี้การนวดระบายน้ำเหลืองเบาๆ และการดูแลผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ ช่วยให้เส้นตื้นดูเรียบขึ้นในชีวิตประจำวัน

คุณจะต้องเลือกวิธีให้ตรงชนิดของริ้วรอยคือสิ่งสำคัญ ริ้วรอยจากกล้ามเนื้อเหมาะกับโบท็อกซ์ ร่องลึกจากปริมาตรหายเหมาะกับฟิลเลอร์ ผิวหย่อนเหมาะกับพลังงานยกกระชับ ส่วนเส้นตื้นและผิวแห้งตอบสนองดีต่อเรตินอยด์ วิตามินซี และความชุ่มชื้นที่เพียงพอ ที่ Olivyong Clinic เราออกแบบแผนผสมผสานที่เริ่มจากต้นเหตุของคุณก่อนเสมอ เพื่อผลลัพธ์ที่ดูอ่อนเยาว์และเป็นธรรมชาติในแบบของคุณ

บทความนี้ถูกตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องโดย

adminoblivyoung

ประวัติการศึกษา

เฉพาะทางด้าน