6 วิธียกกระชับหน้า ให้ผิวกระชับแบบธรรมชาติ
บริการที่คุณอาจสนใจ

ใบหน้าที่กระชับไม่ได้มาจากเทคนิคใดเทคนิคเดียว แต่เกิดจากสมดุลระหว่างโครงสร้างลึก กล้ามเนื้อ และคุณภาพผิวที่ดูแลง่ายๆ ได้ทุกวัน เมื่อฐานเหล่านี้แน่น ผลจากการดูแลในคลินิกจึงคมชัดและอยู่ทน เพราะเป้าหมายของ Olivyong Clinic คือยกอย่างฉลาดให้ผิวกลับมาแข็งแรงและดูเป็นตัวคุณที่สุด
ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะพาคุณเข้าใจความหมายของการยกกระชับ เหตุผลที่ความกระชับสำคัญต่อภาพรวมใบหน้า เปรียบเทียบแนวทางธรรมชาติกับการดูแลในคลินิก แล้วลงมือกับ 6 วิธียกกระชับจากคลินิกของเราที่คัดแล้วว่าเห็นผล ปลอดภัย และปรับใช้ได้จริงตามปัญหาเฉพาะตัวของคุณได้กันครับ
การยกกระชับหน้าคืออะไร?
การยกกระชับหน้า (Face Lift) คือการฟื้นคืนความตึงของผิวและเนื้อเยื่อใต้ผิวให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่สมดุล ผลลัพธ์คือใบหน้าดูยกขึ้น ร่องลึกและริ้วรอยลดลง กรอบหน้าชัดขึ้น กลไกหลักมีสองส่วนคือ การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว เพื่อให้ผิวแน่นขึ้น และ การลดแรงดึงจากกล้ามเนื้อหรือไขมันส่วนเกิน ที่ทำให้ผิวตกลง เมื่อทั้งสองกระบวนการทำงานร่วมกัน ใบหน้าจะยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งหรือผิดรูป
ความสำคัญของใบหน้าที่กระชับ
ใบหน้าที่กระชับช่วยให้โครงสร้างโดยรวมของใบหน้าดูสมดุลขึ้น กรอบหน้าชัด และให้ภาพลักษณ์ที่สดใสขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการแต่งหน้าเยอะ ผิวที่แน่นยังช่วยสะท้อนแสงได้ดีขึ้น ทำให้ใบหน้าดูมีมิติและสุขภาพดี ความกระชับของผิวจึงไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามแต่เป็นตัวบ่งบอกถึงสุขภาพของชั้นผิวและคอลลาเจนภายใน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวัน
ผิวกระชับด้วยธรรมชาติ Vs ใช้บริการคลินิก
การดูแลผิวให้กระชับสามารถทำได้ทั้งสองแนวทาง แนวทางธรรมชาติมักเห็นผลช้ากว่าแต่ให้ผลยั่งยืน เหมาะสำหรับการสร้างพื้นฐานของผิว เช่น การทาครีมกันแดดเป็นประจำ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เช่น รีทินอยด์ หรือวิตามินซี รวมถึงการพักผ่อนให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ส่วนแนวทางทางการแพทย์หรือคลินิก จะเข้าถึงชั้นผิวที่ลึกกว่า เช่น การกระตุ้นคอลลาเจนในชั้น SMAS หรือการปรับแรงดึงของกล้ามเนื้อใบหน้าและลำคอ การผสมผสานทั้งสองแนวทางจึงเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุด โดยเริ่มจากการดูแลพื้นฐานให้ผิวแข็งแรง แล้วจึงใช้เทคโนโลยีเฉพาะทางเพื่อแก้ปัญหาที่ลึกกว่าอย่างตรงจุด
6 วิธียกกระชับหน้าที่นิยมในปัจจุบัน
1. Filler ยกกระชับปรับรูปหน้า
ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ใช้เพื่อเพิ่มปริมาตรให้กับชั้นผิวและช่วยยกพยุงโครงหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น โดยเฉพาะในจุดที่เกิดการยุบตัวของไขมันหรือกระดูก เช่น ขมับ ร่องแก้ม หรือกรอบหน้า ฟิลเลอร์หลายชนิด เช่น Restylane, E.P.T.Q, Lorieant และ Neuramis มีคุณสมบัติช่วยคืนความแน่นให้ผิวและปรับความสมดุลของใบหน้าให้ดูละมุนขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยระดับเริ่มต้นถึงปานกลาง และต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
2. Oligio ยกกระชับด้วยพลังงานคลื่น
เทคโนโลยี Oligio ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency: RF) ส่งพลังงานลงสู่ชั้นหนังแท้เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแน่นขึ้นและเรียบเนียนขึ้นในระยะยาว จุดเด่นคือไม่ต้องพักฟื้นและสามารถทำได้ทุกโครงหน้า เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ต้องพึ่งหัตถการที่มีเข็ม
3. Ultraformer MPT ยกกระชับด้วยคลื่นอัลตราซาวด์แบบโฟกัส
Ultraformer MPT เป็นเครื่องยกกระชับที่ใช้พลังงานอัลตราซาวด์แบบเฉพาะจุด (High-Intensity Focused Ultrasound: HIFU) เพื่อกระตุ้นการหดตัวของชั้นเนื้อเยื่อ SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ในศัลยกรรมดึงหน้า ผลลัพธ์คือกรอบหน้าชัด ผิวแน่นขึ้น และริ้วรอยลดลง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับโดยไม่ต้องพักฟื้น และสามารถทำซ้ำได้ปีละ 1–2 ครั้งเพื่อคงผลลัพธ์
4. Volnewmer ฟื้นฟูผิวและกระชับโครงหน้า
Volnewmer เป็นเทคโนโลยี RF อีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นทั้งการยกกระชับและฟื้นฟูคุณภาพผิว พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุจะช่วยให้คอลลาเจนเดิมหดตัวและกระตุ้นการสร้างใหม่ ส่งผลให้ผิวแน่นและเนียนขึ้น รูขุมขนละเอียดขึ้น จุดเด่นคือสามารถเห็นการยกเล็กน้อยหลังทำทันที และผิวจะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วง 1–2 เดือน เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง
5. Thread Lifting ยกกระชับด้วยไหมละลาย
การร้อยไหมเป็นเทคนิคที่ใช้เส้นไหมละลายขนาดเล็กสอดเข้าไปใต้ผิว เพื่อช่วยพยุงและยกบริเวณที่หย่อนคล้อยให้ยกขึ้น เส้นไหมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามแนวที่ใส่ไหม ทำให้ผิวแน่นขึ้นในระยะต่อมา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลยกทันทีโดยไม่ต้องผ่าตัด และยอมรับการพักฟื้นเล็กน้อยหลังทำ เช่น อาการบวมตึงประมาณ 1–2 วัน
6. Botox ยกกระชับและลดแรงดึงจากกล้ามเนื้อ
Botox เป็นสารที่ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณที่ทำให้ผิวตกหรือเกิดริ้วรอย เมื่อฉีดอย่างแม่นยำจะช่วยยกกรอบหน้าให้ชัดขึ้นและลดรอยย่นบริเวณหน้าผาก หางตา หรือคอได้อย่างเป็นธรรมชาติ ยี่ห้อที่นิยม เช่น Allergan, Xeomin และ Neuronox ให้ผลลัพธ์คงอยู่เฉลี่ย 3–6 เดือน เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เร็วและไม่ต้องพักฟื้น
สุดท้้ายนี้ การยกกระชับหน้าไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามภายนอก แต่เป็นกระบวนการฟื้นฟูสมดุลของผิวและโครงสร้างใบหน้าให้กลับมาทำงานได้อย่างเป็นธรรมชาติ การเลือกวิธีที่เหมาะสมจึงควรพิจารณาจากสภาพผิวจริง ระดับความหย่อนคล้อย และเป้าหมายของแต่ละคน แนวทางทั้ง 6 วิธีที่กล่าวมานี้ถือเป็นแนวทางหลักที่ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ความงาม ซึ่งสามารถปรับใช้ร่วมกันได้อย่างปลอดภัย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม ยกกระชับอย่างกลมกลืน และคงความเป็นตัวเองมากที่สุดครับ















