10 เช็คลิสต์ ก่อนเข้าคลินิกความงามที่ถูกต้องตามกฎหมายในไทย

ความรู้

บทความ

หมวดหมู่

อัพเดทเมื่อ November 10, 2025

บริการที่คุณอาจสนใจ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายบริการลูกค้า

เวลาที่เราจะเลือกเข้าคลินิกความงามสักแห่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่แค่ราคา โปรโมชั่น หรือภาพรีวิวสวยงาม แต่คือความปลอดภัย ความถูกต้องตามกฎหมายในประเทศ และมาตรฐานการทำงานของแพทย์และคลินิกนั้นจริงหรือไม่? เพราะประสบการณ์เหล่านี้ที่เราได้รวบรวมมาสามารถยืนยันได้เสมอว่า ความสวยที่ได้มาต้องไม่แลกกับความเสี่ยง นั่นทำให้ในวันนี้ Obliv Young จึงได้จัดทำบทความซึ่งเรียบเรียงขึ้นจากประสบการณ์ตรงของคลินิกเรา ควบคู่กับกฎหมายไทยและมาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้อ่านเช็กความพร้อมของคลินิกก่อนตัดสินใจทุกครั้ง และเข้าใจว่าเหตุใดคลินิกที่ดีจึงต้องมีมากกว่าเครื่องมือแพงหรือรีวิวจำนวนมากซึ่งอาจมาจากการจ้างรีวิวไว้นั่นเอง

คลินิกความงาม คืออะไร?

คลินิกความงาม(Aesthetic clinic) ในทางกฎหมายไทยถูกจัดเป็นสถานพยาบาลที่ให้บริการด้านเวชกรรมเพื่อการเสริมความงามโดยเฉพาะ เช่น ทรีตเมนต์ผิว ฉีดสารเติมเต็ม เลเซอร์ ยกกระชับ และหัตถการที่ต้องดำเนินการโดยแพทย์เท่านั้น 

โดยจุดสำคัญที่หลายคนมองข้ามก่อนเข้าใช้บริการคือ ทุกขั้นตอนตั้งแต่ปรึกษาการเลือกตัวยาการทำหัตถการไปจนถึงการติดตามผลต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานทางการแพทย์และมีใบอนุญาติ(ตามกฎหมาย)รับรองไว้เท่านั้น ดังนั้น คลินิกความงามจึงไม่ใช่บริการเสริมสวย หรือ บริการด้านสุขภาพ(Wellness Center)ทั่วไป คลินิกความงามที่ดีจึงไม่ใช่แค่มีอุปกรณ์ แต่ต้องมีระบบงานที่ปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมายครบถ้วนนั่นเอง

คลินิกความงามในไทย vs ต่างประเทศ

ในต่างประเทศ การกำกับคลินิกความงามเข้มงวดมาก โดยเฉพาะเรื่องผู้ทำหัตถการและความปลอดภัยของยาและอุปกรณ์ ส่วนไทยเองมีมาตรฐานที่ดีเช่นกันแต่มีความท้าทายคือจำนวนคลินิกที่เพิ่มขึ้นรวดเร็ว จึงทำให้ผู้บริโภคต้องคัดกรองมากขึ้น คลินิกที่ได้มาตรฐานจะเน้นโปร่งใสตรวจสอบได้และไม่ทำอะไรเกินขอบเขตที่กฎหมายกำหนด ในมุมของคลินิกเรา มาตรฐานไทยสามารถเทียบเท่าสากลได้ หากผู้ประกอบการยึดหลักความปลอดภัยและไม่หาวิธีลัด เพราะงานแพทย์ไม่ควรมีทางลัดใดๆ

10 เช็คลิสต์ คลินิกความงาม

1. คลินิกต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล

เอกสารใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลควรติดไว้ในคลินิกโดยเปิดเผย พร้อมชื่อผู้รับอนุญาต ประเภทสถานพยาบาล และวันหมดอายุ การที่คลินิกเปิดเผยเอกสารอย่างตรงไปตรงมาคือสัญญาณของการปฏิบัติตามกฎหมาย หากไม่พบใบอนุญาตหรือหลบเลี่ยงการแสดงเรายืนยันให้คุณหลีกเลี่ยงทันที เพราะข้อกำหนดด้านสถานที่ บุคลากร และอุปกรณ์ฉุกเฉินถูกตรวจผ่านใบอนุญาตนี้แล้วตั้งแต่ต้นทาง 

2. แพทย์ผู้ทำหัตถการต้องมีใบประกอบวิชาชีพและตรวจสอบตัวตนได้

คุณควรเห็นกล่องผลิตภัณฑ์จริง ฉลากภาษาไทยหรือเอกสารกำกับ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีทะเบียน ภายในคลินิกควรบันทึกเลขล็อต วันหมดอายุ และแหล่งจัดซื้อไว้ตรวจสอบย้อนหลังได้ โดยเฉพาะเครื่องมือแพทย์ที่ถูกควบคุม คลินิกที่โปร่งใสจะให้ถ่ายภาพฉลากและเลขล็อตเพื่อเก็บเป็นหลักฐานหลังทำทุกครั้ง ซึ่งช่วยทั้งเรื่องความปลอดภัยและการรับประกันผลหัตถการ

3. ยาและเวชภัณฑ์ต้องเป็นของแท้มีล็อตและแหล่งที่มาชัดเจน

คุณควรเห็นกล่องผลิตภัณฑ์จริง ฉลากภาษาไทยหรือเอกสารกำกับ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีทะเบียน ภายในคลินิกควรบันทึกเลขล็อต วันหมดอายุ และแหล่งจัดซื้อไว้ตรวจสอบย้อนหลังได้ โดยเฉพาะเครื่องมือแพทย์ที่ถูกควบคุม คลินิกที่โปร่งใสจะให้ถ่ายภาพฉลากและเลขล็อตเพื่อเก็บเป็นหลักฐานหลังทำทุกครั้ง ซึ่งช่วยทั้งเรื่องความปลอดภัยและการรับประกันผลหัตถการ

4. การอธิบายความยินยอมต้องครบทั้งประโยชน์ความเสี่ยงและทางเลือก

แบบฟอร์มยินยอมต้องอ่านเข้าใจง่าย ระบุชื่อหัตถการ สารที่ใช้ ปริมาณโดยประมาณ ผลข้างเคียงที่อาจเกิด และแนวทางแก้ไข หากเกิดภาวะแทรกซ้อนต้องอธิบายช่องทางติดต่อฉุกเฉินและค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุม เราเชื่อว่าความยินยอมที่ดีคือบทสนทนาไม่ใช่แค่เอกสารให้เซ็น และต้องให้เวลาคุณตัดสินใจอย่างไม่มีแรงกดดัน

5. นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลต้องตาม PDPA

เมื่อคลินิกเก็บข้อมูลสุขภาพ ใบหน้า ภาพถ่ายก่อนหลัง หรือบันทึกการรักษา ต้องมีฐานกฎหมายหรือความยินยอมที่ชัดเจน ระบุวัตถุประสงค์ ระยะเวลาการเก็บรักษา ผู้รับข้อมูล และสิทธิในการเพิกถอนยินยอม มาตรฐานของเราคืออธิบาย PDPA แบบสั้นตรงและให้คุณเข้าถึงสำเนาข้อมูลของตนเองได้เสมอ ทั้งยังจำกัดการเข้าถึงข้อมูลเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่จำเป็นจริง ๆ

6. การโฆษณาและการให้ข้อมูลต้องไม่เกินจริงและอ้างอิงวุฒิได้

กฎหมายไทยห้ามอวดอ้างความเป็นผู้เชี่ยวชาญเกินวุฒิ และห้ามสัญญาผลลัพธ์ตายตัว คลินิกควรสื่อสารด้วยภาพจริงของเคสที่ได้รับความยินยอมและระบุข้อจำกัดอย่างตรงไปตรงมา ถ้าเห็นคำอ้างแบบการันตีผลหรือคำว่าเก่งที่สุดโดยไม่มีหลักฐานวุฒิบัตรให้ตั้งคำถามกับมาตรฐานวิชาชีพทันที

7. ระบบปลอดเชื้ออุปกรณ์และพื้นที่ทำหัตถการต้องได้มาตรฐาน

ห้องหัตถการควรแยกชัดเจน มีขั้นตอนทำความสะอาดและฆ่าเชื้อที่บันทึกได้จริง อุปกรณ์ใช้ซ้ำต้องผ่านกระบวนการทำให้ปราศจากเชื้อพร้อมบันทึกรอบการทำ เครื่องมือแพทย์ต้องมีการบำรุงรักษาตามกำหนดโดยผู้เชี่ยวชาญ ภาพที่ควรเห็นคือความเป็นระเบียบสะอาดแบบตรวจย้อนกลับได้ไม่ใช่สะอาดเฉพาะที่มองเห็น

8. มีความพร้อมกรณีฉุกเฉินเสมอ

คลินิกที่ดีต้องมีชุดฉุกเฉิน ยาลดอาการแพ้ เครื่องมือพื้นฐานทางการแพทย์ และแผนส่งต่อโรงพยาบาลคู่สัญญาที่ชัดเจน เอกสารเบอร์ฉุกเฉินควรอยู่ในห้องหัตถการ เราไม่ให้เริ่มทำหัตถการใดๆหากอุปกรณ์ฉุกเฉินไม่พร้อมและทีมไม่ได้ซักซ้อมแผนฉุกเฉินตามรอบ

9. ราคาใบเสร็จและการรับประกันต้องโปร่งใส

ก่อนทำควรได้รับใบเสนอราคา ระบุรายการหัตถการ ปริมาณยา ภาษี และเงื่อนไขเพิ่มเติม หลังทำต้องมีใบเสร็จระบุแพทย์ผู้ทำ เลขล็อตผลิตภัณฑ์ และรูปถ่ายประกอบการรักษาเพื่อใช้รับประกันกรณีแก้ไข ราคาถูกผิดปกติคือสัญญาณอันตรายเพราะต้นทุนการแพทย์ไม่เคยต่ำกว่ามาตรฐานความปลอดภัย

10. การติดตามผลและจัดการภาวะแทรกซ้อนต้องมีระบบ 

คลินิกความงามที่ดีควรนัดติดตามผลเป็นระยะ ให้ช่องทางติดต่อด่วน และมีแนวทางจัดการภาวะแทรกซ้อนที่สื่อสารล่วงหน้าอย่างเข้าใจง่าย พร้อมทั้งบันทึกผลการรักษาเพื่อประเมินประสิทธิภาพในระยะยาว มาตรฐานของเราคือรับผิดชอบตั้งแต่วันปรึกษาถึงวันปิดเคสและเปิดโอกาสให้คุณสอบถามได้ทุกเมื่อ

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคลินิกความงามในไทย

แกนกลางของกฎหมายที่ควบคุมคลินิกเสริมความงามในไทย คือ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล ที่กำหนดคุณสมบัติผู้รับอนุญาต หลักเกณฑ์การดำเนินการ และการแสดงใบอนุญาตให้ประชาชนตรวจได้อย่างโปร่งใส นอกจากนี้ พระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์และแนวทางของ อย. กำหนดมาตรฐานการขึ้นทะเบียน นำเข้า และการแสดงข้อมูลของเครื่องมือที่ใช้กับผู้ป่วย ส่วนด้านวิชาชีพ แพทยสภาออกประกาศและแนวทางเกี่ยวกับการสื่อสารโฆษณาและการอ้างวุฒิ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดของสาธารณชน

ทั้งนี้่ ด้านข้อมูลส่วนบุคคล PDPA และแนวปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้คลินิกมีฐานกฎหมาย ความยินยอม และการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลที่ชัดเจน เมื่อคลินิกทำงานภายใต้กรอบทั้งสี่เสาหลักนี้ความปลอดภัยและความเชื่อมั่นของผู้รับบริการจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

บทความนี้ถูกตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องโดย

adminoblivyoung

ประวัติการศึกษา

เฉพาะทางด้าน